การ Martingale คืออะไร?
ประวัติความเป็นมาของการ Martingale คือระบบการเดิมพันประเภทหนึ่งที่มีต้นกําเนิดมาจากฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 18 ออกแบบมาสําหรับใช้ในเกมที่นักพนันถูกรางวัลหากเหรียญที่ทอยออกหัวและแพ้หากออกก้อยแนวทางนี้เกี่ยวข้องกับการเพิ่มเดิมพันเป็นสองเท่าหลังจากการขาดทุนทุกครั้งเพื่อให้การถูกรางวัลครั้งแรกจะได้จำนวนที่ขาดทุนกลับคืนบวกชนะผลกำไรเท่ากับการเดิมพันในครั้งแรก
การ Martingale ในการเทรด Binary Option
การปรับใช้การ Martingale กับ Binary Option สามารถนำมาปรับใช้ได้ และเป็นที่นิยมของเทรดเดอร์ เป็นเพราะว่าการเทรด Binary Option เป็นการเทรดที่จบเป็นไม้ๆ และสามารถรู้ผลได้อย่างรวดเร็วทำให้สามารถวิเคราะห์ได้ทันทีเลยว่าหากแพ้ในไม้นั้น ไม้ต่อไปจะต้องเทรดไม้ละเท่าไหร่ แนวคิดในการ Martingale กับการปรับใช้กับการเทรด Binary Option คือเมื่อแพ้ในไม้นั้นให้ทำการเพิ่มเงินในไม้ต่อไปเป็นเท่าตัว ยกตัวอย่างเช่น เมื่อทำการเทรดไม้ละ 10$ แล้วแพ้ในไม้นั้นไม้ต่อไปต้องเทรดที่ 20$ หากแพ้อีกจะเปลี่ยนมาเป็น 40$ และแน่นอนหากแพ้ติดต่อกันก็จะส่งผลทำให้ต้องใช้จำนวนเงินทุนมากขึ้น เพราะต้องใช้เงินในการแก้ไม้ก่อนหน้านั้น
Martingale เปลี่ยน Trader เป็น Gambler?
การ Martingale หรือเรียกง่ายๆคือ เทคนิคการทบไม้ หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า อย่างงี้ก็ไม่ต่างจากการเล่นการพนันที่เมื่อแพ้ก็ทำการทบไม้หนะสิ? คำตอบของคำถามเหล่านั้นก็คือ หากไม่มีความรู้การเทรดก็ไม่ต่างจากการพนันนั่นเอง โดยสามารถแบ่งหัวข้อต่างๆเพื่อที่ Trader จะได้ไม่กลายเป็น Gambler หรือนักพนันนั่นก็คือ
- มี Strategy ที่ชัดเจน : ในการเทรด Binary Option นั้นจำเป็นที่จะต้องการความแม่นยำในการเข้าเทรดสูงและอาศัยความรู้และประสบการณ์อย่างมาก จำเป็นจะต้องมีแผนการเทรดที่มั่นคงโดยผ่านการ Back Test และ Forward Test มาอย่างรอบคอบ เพราะหากมีการนำเทคนิค Martingale ซึ่งมีความเสี่ยงสูงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีเทคนิคที่มั่นคงและมีแบบแผน
- สามารถควบคุมอารมณ์ได้ : การที่เทรดเดอร์สามารถควบคุมอารมณ์ได้ เป็นสิ่งที่ดีอย่างมาก และเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ควรมี เพราะหากไม่มีการคุมอารมณ์ถึงจะมี Strategy ที่ดีมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ เพราะการที่ไม่สามารถคุมอารมณ์ก็ไม่ต่างจากการพนันนั่นเอง ยกตัวอย่างที่เทรดเดอร์อารมณ์ร้อนมักเจอคือ เมื่อแพ้ในไม้นั้น ก็มีความคิดที่ว่าจะ Martingale โดยขาดการใช้เหตุผลที่มากพอในการเข้าเทรดอาจะเกิดการขาดทุนอย่างง่ายดายเป็นเพียงเพราะว่าหัวร้อนจากการแพ้ในไม้นั้น
- มี Target ที่ชัดเจน : การเทรดควรมีเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อที่เทรดเดอร์จะสามารถคำนวณไม้ที่สามารถเข้าเทรดได้แต่ถ้าหาก ขาดซึ่งเป้าหมายว่าจะต้องการกำไรเท่าไหร่อาจจะทำให้เทรดอย่างไร้จุดหมายเพราะการที่มีเป้าหมายนั้นสำคัญอย่างมากโดยสามารถแบ่งเป้าหมายเป็น 2 หัวข้อหลักๆคือ
- เป้าหมายระยะสั้น : เป้าหมายระยะสั้นยกตัวอย่างให้เห็นได้ชัดเช่น เป้าหมายกำไรในวันนั้นๆอาจเป็นเป้าหมายที่ไม่ได้มากมายนักแต่จะเน้นการเทรดเพื่อบรรลุเป้าหมายเล็กๆไปอย่างต่อเนื่องและมั่นคงเพื่อความสำเร็จในเป้าหมายหลักในอนาคตนั้นเอง
- เป้าหมายระยะยาว : เป็นเป้าหมายที่เรียกได้ว่าสำคัญอย่างมากเพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงภาพรวมว่าการเทรดมีเป้าหมายคืออะไร ยกตัวอย่างคือ การเทรดเพื่อที่จะซื้อบ้านหรือรถ โดยการตั้งเป้าหมายในระยะยาวที่ดีนั้นควรจะเปลี่ยนมุมมองความคิดของตัวเองเสียก่อนก่อนตั้งเป้าหมายเปลี่ยนจาก “อยากได้สิ่งนั้น” เป็น “ทำอย่างไรถึงจะได้สิ่งนั้น” เพราะการมี Mindset ที่ดีในการตั้งเป้าหมายนั้นสำคัญอย่างมากเพื่อที่จะทำให้สามารถกำหนดสิ่งที่ต้องทำเพื่อบรรลุเป้าหมาย
- มี Stop Loss ที่ชัดเจน : การตั้ง Stop Loss เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะจะช่วยให้เทรดเดอร์นั้นได้มีความรู้จักพอ และทำการพักทั้งทางกายและทางใจ เพราะการกำหนด Stop Loss ที่ดีควรเหมือนเป็นการขาดทุนที่สามารถยอมรับได้ และคำนวณไว้ก่อนแล้วเพราะการวางแผนการเทรดที่ดีนั้น คือมองกรณีที่แย่ที่สุดก่อนเป็นอันดับแรกที่จะสามารถเกิดขึ้นได้ หรือ Worst Case Scenario นั่นเอง
หัวใจหลักของการ Martingale
หัวใจหลักของการเทรด Binary Option โดยใช้ Martingale เข้ามามีส่วนร่วมในการเทรด หลักๆคือการบริหารเงินให้ดี และบริหารอารมณ์ให้ดี เป็นเพราะว่าการ Martingale นั้นมีความเสี่ยงที่จะขาดทุนเร็วกว่าการเทรดแบบปกติดังนั้นจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องการความรู้และความเข้าใจในระบบนี้
-
Money Management
ความแตกต่างระหว่าง Trader กับ Gambler นั้นก็คือการบริหารการเงินที่มีแบบแผน โดยสิ่งที่ Trader ที่ดีทำนั่นก็คือการวางแผนการเงิน ยกตัวอย่างเช่น การแบ่งเงินเป็นส่วนๆโดยนำเงินเย็นมาลงทุนและบริหารควาเสี่ยงการบริหารเงินที่ดีนั้นสามารถทำให้เทรดเดอร์ไม่เกิดความไม่มั่นคงทางอารมณ์ เพราะรู้ถึงความเสี่ยงที่สามารถรับได้ และยังทำให้การเทรดมีระบบมากขึ้นอีกด้วยดังนั้นการ Money Management ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
-
Psychology of Martingale
จิตวิทยาในการเทรดโดยนำ Martingale เข้ามาร่วมด้วย คือการที่ไม่ให้อารมณ์เข้ามาควบคุมการเทรดเพราะอารมณ์คือตัวการของการขาดทุน การทำให้สภาพจิตใจให้มั่นคง ก็จะส่งผลทำให้การเทรดมั่นคงและเป็นระบบมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นจิตวิทยาในการ Martingale หลักๆคือการควบคุมอารมณ์ต่างๆที่เขามาทำให้การเทรดแย่ลงเช่น หัวร้อน กลัว โลภ หากสามารถควบคุมอารมณ์เหล่านี้ได้ก็จะทำให้การเทรดมีระบบมากขึ้นและสามารถทำกำไรได้อย่างมั้นคงในที่สุด
- ความเครียดและความกังวล : การ Martingale ใน Binary จะทำให้เทรดเดอร์มีความเครียดที่มากขึ้น เป็นเพราะว่าจำนวนเงินนั้นเพิ่มมมากขึ้นเรื่อยๆจึงทำให้มีความเครียดอย่างมากหากไม่มีการเตรียมใจที่ดี
- ขาดทุดอย่างต่อเนื่อง : ใน Binary Option การเทรดแพ้ต่อเนื่องนั้นเป็นเรื่องธรรมดาอย่างมาก แต่จะเปลี่ยนไปคนละแบบหากมีการ Martingale เพราะหากแพ้อย่างต่อเนื่องแล้วทำการ Martingale อยู่จะทำให้ขาดทุนไปอย่างมากอาจทำให้สภาพจิตใจแย่ได้
- ความตั้งใจและการตัดสินใจ : เทรดเดอร์จะต้องมีสมาธิอย่างมากในการเทรดเพราะหากเทรดแพ้อย่างต่อเนื่องจะทำให้ขาดทุนอย่างมาก การมีสมาธิในการตัดสินใจและใช้เหตุผลในการเข้าเทรดในแต่ละไม้เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากกเพราะการมีสมาธิในสิ่งที่ทำจะทำให้ทำสิ่งนั้นได้ดียิ่งขึ้น
- การเผชิญหน้ากับความเสี่ยง : Binary Option เป็นการเทรดที่ต้องอาศัยประสบการณ์และความรู้อย่างมากเพราะต้องใช้ความแม่นยำในการเข้าเทรดในแต่ละไม้ และยิ่งใช้เทคนิคนี้จะต้องทำการยอมรับและรู้ถึงความเสี่ยงที่อาจจะได้รับในการเทรดโดยใช้เทคนิคการ Martingale
ข้อดีข้อเสียของการ Martingale
ข้อดี |
ข้อเสีย |
กู้ไม้ที่เทรดแพ้ได้อย่างรวดเร็ว : เทรดชนะไม้เดียวสามารถทำให้พอร์ตกลับมาสู่ใกล้เคียงจุดเดิมได้ |
เสี่ยงพอร์ตแตกเร็วขึ้น : แน่นอนว่าการเทรดโดยใช้เทคนิคนี้มีความเสี่ยงอยากมากที่จะพอร์ตแตกไวกว่าการเทรดปกติหากทุนไม่สูงพอหรือไม่มีความแม่นยำ |
High Risk High Return : อาจไม่นับว่าเป็นข้อดีซักเท่าไหร่นักเพราะยังมีความเสี่ยงสูง แต่กับบางคนที่มีประสบการณ์และ มีการการวิเคราะห์มาเป็นอย่างดีผลตอบแทนจะมากขึ้นไปเพราะมีการเทรดที่มั่นคง |
ใช้ทุนสูง : จำเป็นที่จะต้องใช้ทุนสูงมากเพื่อให้สามารถทบไม้ที่เทรดแพ้ได้หากทุนไม่มากพออาจไม่เหมาะกับการเทรดโดยใช้เทคนิคนี้เท่าไหร่นักเพราะต้องอาศัยเงินทุนที่เยอะมาก |
สามารถเติบโตได้ไว : การใช้เทคนิคนี้จะทำให้พอร์ตโตเร็วอย่างมากเพราะเมื่อเกิดการขาดทุนสามารแก้ไม้นั้นในการเทรดครั้งถัดไปได้ หากเทรดชนะ |
ทำลายสภาพจิตใจ : หากเทรดแพ้ติดกันจะทำจำนวนเงินในพอร์ตลดลงไปอย่างน่ากลัวอีกทั้งยังต้องใช้เงินมากขึ้นอีกในไม้ถัดไป อาจทำให้สภาพจิตใจแย่ลงได้ |
Martingale ยังไงให้ยั่งยืนและไม่ล้างพอร์ต?
เทคนิคการ Martingale สรุปให้เข้าใจอย่างง่ายๆนั้นก็คือ อย่างที่ทุกคนเข้าใจกันว่าเมื่อแพ้ในไม้นั้นสำหรับในไม้ถัดไปให้เพิ่มจำนวณเป็นเท่าตัว นี่คือการสรุปโดยคร่าวๆแต่ถ้าหากมองในเบื้องลึกทางสถิติดีๆแล้วหากทำการเทรดโดยเมื่อแพ้แล้วทำการเพิ่มเป็นเท่าตัว หากแพ้ชนะสลับกันไปมาในทางสถิติแล้วหากต้องการจะต้องการนำกำไรจากไม้ที่แพ้กลับมาให้ทำการ เพิ่มจาก 2 เท่าตัวเป็น 2.5 เท่าตัว เหตุผลเนื่องมาจากว่า ROI (Return Of Investment) ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Binary Option นั่นเองเพราะส่วนมาก หากเทรดได้กำไรในไม้นั้น ROI จะอยู่ที่ 80% (ขึ้นอยู่กับ Broker และสินทรัพย์ที่เลือกเทรด) ยกตัวอย่างง่ายๆนั้นก็คือหากเทรดชนะในไม้ 10$ จะได้เฉลี่ย 8$ นั่นเองแต่หากเทรดแพ้จะเสียไปทั้งหมด 100% โดยการจะปรับใช้การ Martingale ในการเทรดสามารถแบ่งได้ดังนี้
- มี Trade Setup ที่ดีและมั่นคง : ในการเทรด Binary Option จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมี Trade Setup หรือกลยุทธ์การเทรดที่ดีก่อนเพื่อที่จะเทรดได้อย่างมั่นคงได้
- Back Test และ Forward Test : ทำการ Back Test และ Forward Test เพื่อที่จะเช็คแผนการเทรดอยู่เสมอเพื่อที่จะสามารถปรับปรุงการเทรดได้อย่างมั่นคง
- ทดลอง Demo ก่อน : การทดลองเทรดแบบบัญชีทดลองสามารถเป็นแหล่งหาความรู้และความเข้าใจในตลาดเพราะเมื่อทดลองเทรดไปเรื่อยๆโดยศึกษาและวิเคราะห์ตัวเองว่า จังหวะนี้ทำไมถึงเข้าเทรดหรือจังหวะนี้ทำไมถึงพลาด การ Forward Test ในบัญชี Demo ก็ถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี
- เริ่มเทรดด้วยเงินจริง : การเทรดด้วยเงินจริงก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากอย่างหนึ่ง เป็นเพราะจะทำให้เทรดเดอร์ได้เรียนรู้ถึงสถานการณ์จริง ได้เรียนรู้ถึงอารมณ์ที่มีจริงๆ เพราะเป็นเงินจริงจึงได้รับรู้ถึงความรู้สึกจริงๆ
Anti Martingale กลยุทธ์ที่เทรดเดอร์ควรรู้
Anti Martingale เป็นเทคนิคที่เรียกได้ว่าปลอดภัยกว่า Martingale อย่างมาก หลักการโดยสรุปให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ตรงข้ามกับการ Martingale แทนที่จะเพิ่มขนาดไม้เป็นสองเท่าตอนที่เทรดพลาดกลายเป็นลดขนาดไม้เป็นสองเท่าตอนที่เทรดผิดพลาด และเพิ่มขนาดไม้เป็นสองเท่าตอนที่เทรดได้กำไร
จากรูปจะเห็นได้ว่ามีการลดขนาดการเทรดทุกครั้งที่เทรดแพ้เพื่อลดความเสี่ยงเหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีขนาดทุนที่อาจจะไม่ได้มากนักแต่การเทรดแบบ Anti Martingale จะช่วยให้การบริหารการเงินนั้นมีความเสี่ยงน้อยลงและเป็นส่วนช่วยชะลอการเทรดของเทรดเดอร์ ลองนึกภาพง่ายๆ หาเปรียบเทียบกันระหว่างกำลังเทรดโดยใช้ Martingale กับ Anti Martingale แล้วแพ้ติดต่อกัน 2 ไม้ การเทรดแบบ Martingale จะมีหลักการให้เทรดเดอร์เพิ่มขนาดไม้เพื่อแก้พอร์ต แต่ Anti Martingale จะมีหลักการให้เทรดเดอร์ลดขนาดไม้เพื่อลดความเสี่ยงลง
สรุปใจความสำคัญ
การเทรดโดยใช้หลักการ Martingale มีข้อดีและข้อเสียต่างๆโดยขึ้นอยู่กับเทรดเดอร์ที่จะตัดสินในว่าจะเลือกใช้หรือไม่โดย มีปัจจัยเบื้องต้นในการตัดสินใจเริ่มต้นการเทรดแบบ Martingale ดังนี้
- ดู Strategy ของตัวเองว่ามีความมั่นคงไหม
- มีการควบคุมอารมณ์ที่ดีไหม
- มีการบริหารเงินหรือ Money Management ที่ดีไหม
- มีเงินทุนพอไหม