Fibonacci คืออะไร
Fibonacci ถูกค้นพบโดย Leonardo Pisano Fibonacci เขาได้ค้นพบความมหัศจรรย์ของลำดับตัวเลขเชิงอนุกรมที่เกิดจากการบวกกันเป็นลำดับเรียงกันไปเรื่อยๆโดยไม่มีที่สิ้นสุดโดยเริ่มจาก 0 และ 1 ต่อมามีคนเริ่มนำตัวเลขลำดับ Fibonacci มาทำกระบวนการเชิงคณิตศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการ บวก ลบ คูณ หาร ยกกำลัง รวมทั้งการถอด Square Root ทำให้เกิดเป็นตัวเลขอัศจรรย์ขึ้นมา
Fibonacci มีหลักการทำงานอย่างไร
เมื่อทำการเอาตัวเลข Fibonacci ตัวหน้ามาหารด้วยตัวหลัง ทำการหารไปเรื่อยๆ เราจะเห็นได้ว่าอัตตราส่วนของตัวเลขที่ได้จะมีค่าใกล้เคียงกับ 0.618 และเมื่อเลขมากขึ้นไปเรื่อยๆจนเข้าใกล้เลข 0.618 เราจะเรียกอัตราส่วนนี้ว่า Golden Ratio หรือ ตัวเลขอัตตราส่วนทองคำ
1/2 |
0.5 |
2/3 |
0.667 |
3/5 |
0.6 |
5/8 |
0.625 |
8/13 |
0.615 |
13/21 |
0.619 |
21/34 |
0.617 |
34/55 |
0.618 |
55/89 |
0.618 |
89/144 |
0.618 |
Golden Ratio คืออะไร
อัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio) เป็นซึอัตราส่วนที่เกิดจากการแบ่งส่วนของวัตถุหรือปรากฏการณ์อย่างนึงออกเป็นสองส่วน โดยที่อัตราส่วนระหว่างส่วนทั้งสองมีค่าเท่ากันหรือใกล้เคียงกันมากที่สุด และมักถูกสัมพันธ์กับ 1.6180 ซึ่งเรียกว่า จำนวนทองทำ หรือ Phi
Fibonacci ประเภทต่างๆ
- Fibonacci Retracement : ใช้เพื่อการหาราคาพักตัวของกราฟที่โดยจะลากจากจุด Swing Low ไปหาจุด Swing Hight รูปแบบนี้จะใช้เพื่อการหาเป้าหมายราคาของการพักหรือย่อตัวหลังจากราคามีการเคลื่อนตัว หรือเรียกได้ว่าเป็นการหาจุดที่สำคัญ หรือการหาจุดที่มีนัยสำคัญนั่นเองโดยอัตราส่วนที่ในการหาแนวรับคือ 0%, 38.2%, 50%, 61.8%, 78.6% และ 100%
สรุปให้เข้าใจง่ายๆ หน้าที่หลักของ Fibonacci Retracement คือการหาแนวรับที่มีนัยสำคัญของราคานั่นเอง สังเกตุง่ายๆจากในรูปว่าสามารถตีแนวรับได้ที่ Zone 38.2% จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าราคามีการชนโซนตรงนั้นหลายครั้งแล้วกลับตัว จะเห็นได้ว่าสามารถหาแนวรับได้อย่างชัดเจนจากการตี Fibonacci Retracement จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการหาแนวรับที่มีนัยสำคัญ
- Fibonacci Extension: เป็นการหาเป้าหมายที่ราคาสามารถไปถึงได้ หลังจากที่ราคามีการพักตัวโดยจะใช้คล้ายๆกับตัวของ Fibonacci Retracement แต่จะมีอัตราส่วนที่มากกว่า 100% นั่นเองโดยมีระดับ 127.2% และ 161.8% เพิ่มเข้ามาเพื่อหาเป้าหมายของราคา
สรุปให้เข้าใจง่ายๆ Fibonacci Extension มีหน้าที่ที่จะหาเป้าหมายที่ราคาอาจไปถึงได้นั่นเอง
- Fibonacci Projection: เป็นการใช้งานเพื่อหาเป้าหมายราคาที่จะสามารถวิ่งต่อไปได้ สรุปง่ายๆก็คือ คล้ายๆกับ Fibonacci Extension แต่ต้องใช้ถึง 3 จุดในการอ้างอิง และก็เหมือนกันกับ Fibonacci Extension เป้าหมายหลักๆคือ การหาเป้าหมายของราคาที่อาจไปถึงได้ แต่ต่างกันตรงที่ต้องใช้ 3 จุดที่ใช้เป็นแนวอ้างอิง เพื่อหาแนวต้าน หรือเป้าหมายของราคาที่จะไปถึงได้
ประโยชน์ของ Fibonacci
- ใช้กำหนด Swing High : Swing High คือจุดที่ราคาทำยอดสูงสุด ในการหาจุด Swing High สามารถแบ่งออกได้ได้เป็น 2 รูปแบบนั่นก็คือ
- วิเคราะห์ขาลงเพื่อหาแนวต้าน : หาแนวต้านของราคาและเป้าหมายของราคา ที่สามารถไปถึงได้ใช้ Fibonacci Extension ในการหาเป้าหมายราคาเมื่อราคาหลุดเส้น Trend Line
- วิเคราะห์ขาขึ้นเพื่อหาแนวรับ : หาเป้าหมายของราคาที่สามารถลงไปถึงได้ใช้ Fibonacci Retracement ในการหาจุดพักตัว
- ใช้กำหนด Swing Low : Swing Low คือจุดที่ราคาต่ำสุด หลักการหา Swing Low ก็จะคล้ายๆ การหา Swing High โดยสามารถสรุปการกำหนด Swing Low ได้ 2 รูปแบบ
- วิเคราะห์ในแนวโน้มขาขึ้น : หาแนวรับของราคาในช่วงการพักตัวหรือการย่อตัว (Retracement)
- วิเคราะห์ในทิศทางขาลง : หาแนวต้านของราคาที่สามารถวิ่งขึ้นไปถึงได้ (Extension)
- การวิเคราะห์ในทิศทางแนวโน้มขาลง
(ภาพแสดงการใช้ Fibonacci Extension เพื่อหาจุดที่ราคพักตัว)
จากการวิเคราะห์กราฟจะเห็นได้ว่ากำลังเป็นแนวโน้มขาลงโดยที่ราคามีการไล่ระดับต่ำลงมาเรื่อยๆจากนั้นกราฟเกิดการเบรกเส้น Trend Line ที่ตีไว้โดยที่เป็นแท่งเทียนที่ปิดตัวเหนือจากเส้นที่ตีไว้ สามารถบอกได้ว่ากราฟนั้นกำลังจะกลับตัวไปในเทรนด์ขาขึ้นโดยกำหนดให้จุดสูงสุดของราคาเป็น Swing High แล้วกำหนดจุดต่ำสุดเป็น Swing Low จากนั้นทำการกำหนด 0% ตรง Swing High และ 100% ที่ Swing Low เพื่อเป็นการวิเคราะห์ว่าราคาจะสามารถวิ่งได้ไปถึงจุดไหน
- การวิเคราะห์ในแนวโน้มขาขึ้น
(ภาพแสดงการใช้ Fibonacci Retracement เพื่อหาจุดที่ราคพักตัว)
การวิเคราะห์ในทิศทางแนวโน้มขาขึ้น เพื่อหาแนวรับที่ราคาจะสามารถลงไปถึงได้ในช่วงที่ราเกิดการพักตัวโดยทำการกำหนดให้ Swing High ที่ราคาอยู่จุดสูงสุดกำหนดให้เป็น 0% และ Swing Low เป็น 100%
การใช้ Fibonacci ให้มีประสิทธิภาพ
การที่จะใช้เทคนิค Fibonacci ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่มากขึ้น เทรดเดอร์หลายท่านได้บอกแป็นเสียงเดียวกันว่าการที่จะเทรดโดยใช้เทคนิค Fibonacci ต้องใช้งานควบคู่ไปกับเทคนิค Elliott Wave กับ Supply Demand นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอีกหลายๆอย่างที่ช่วยให้ใช้เทคนิคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยสามารถสรุปได้เป็นหัวข้อคร่าวๆได้ดังนี้
- การใช้ Indicator ต่างๆมาประกอบ : สามารถนำ Indicator ต่างๆมาช่วยทำให้มีความแม่นยำมากขึ้น
- หา Demand Supply : โดยการใช้ Fibonacci เพื่อหา Demand Supply เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากเพราะว่าหากเข้าเล่นใน Zone ที่มีนัยสำคัญก็จะทำให้ไม้นั้นได้เปรียบ
- Back Test : เช่นเดียวกับการจะเรียนรู้อะไรซักอย่าง จำเป็นต้องมีการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอโดยสามารถฝึกการตี Fibonacci เพื่อหา Zone ที่นัยสำคัญสามารถเทรดได้
เรียนรู้อยู่เสมอ : ด้วยความที่การตี Fibonacci ต้องอาศัยความเข้าใจของการใช้งาน ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้อยู่เสมอ หากเข้าใจหลักการต่างๆได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ก็จะเป็นผลดีอย่างมาก
การปรับใช้ Fibonacci กับ Elliott Wave
Elliot Wave เป็นทฤษฎีทางเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มของราคา โดยมองว่าราคาในตลาดจะมีการเคลื่อนไหวในรูปแบบของคลื่น โดยแบ่งเป็นคลื่นที่เคลื่อนไหวขึ้น (impulse waves) และคลื่นที่เคลื่อนไหวลง (corrective waves) ตามลำดับ
- Impulse Waves
- คลื่นที่เคลื่อนไหวขึ้น มักเกิดขึ้นในทิศทางขึ้นและเป็นส่วนที่สร้างระดับสูงสุดใหม่ของราคา
- ประกอบด้วย 5 คลื่นย่อยที่เคลื่อนที่ขึ้น (1-2-3-4-5)
- Corrective Waves
- คลื่นที่เคลื่อนไหวลง มักเกิดขึ้นในทิศทางตรงข้ามกับ Impulse Wave
- ประกอบด้วย 3 คลื่นย่อยที่เคลื่อนที่ลง (A-B-C)
ความสัมพันธ์กับ Fibonacci
- ระดับของคลื่นใน Elliot Wave มักมีความสัมพันธ์กับทฤษฎีของ Fibonacci โดยมักใช้อัตราส่วน Fibonacci เพื่อวางแผนและวิเคราะห์ระดับของคลื่น
การนำ Elliott Wave มาปรับใช้กับ Fibonacci
- หาการพักตัวของราคาเป็น Correction Cycle ยกตัวอย่างเช่น การหาแนวรับของราคาช่วงการพักตัวของคลื่น Wave 2, Wave 4 และ Wave b
- การหาเป้าหมายราคาในทิศทางขาขึ้นเป็น Impulse Cycle เช่น การหาแนวต้านหรือเป้าหมายของราคาของคลื่น Wave 3, Wave 5 และ Wave C
การปรับใช้ Fibonacci กับ Demand Supply
การใช้ Fibonacci ร่วมกับ Demand Supply เป็นวิธีที่น่าสนใจในการวิเคราะห์และการเทรดในตลาด โดย Fibonacci สามารถช่วยในการกำหนดระดับที่สำคัญของ Demand Supplyซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของ Demand and Supply ได้ดังนี้
- การใช้ Fibonacci ในการกำหนด Zone ที่มีนัยสำคัญ : ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงของราคา การใช้ Fibonacci Retracement สามารถช่วยในการกำหนดระดับที่สำคัญของ Demand และ Supply เพื่อช่วยในการตัดสินใจเข้าออกทำการเทรด หรือการตัดสินว่าตรงไหนกันแน่ที่มีนัยสำคัญ
- การใช้ Fibonacci Extension กำหนดเป้าหมายทำกำไร : เมื่อเทรดเดอร์ได้ Zone ของ Demand Supply ที่สำคัญ การใช้ Fibonacci Extension สามารถช่วยในการกำหนดระดับเป้าหมายของการเทรด ซึ่งสามารถใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจในการเข้าดูกราฟได้ว่า Zone ไหนที่น่าเล่นในไม้นั้นหรือไม่ หรืออาจจะเป็นจุดที่มีการปรับตัวของราคาที่น่าติดตามเพื่อเทรดในอนาคต
การคาดการณ์แนวโน้มอนาคต : การวิเคราะห์ Demand and Supply ร่วมกับ Fibonacci ยังสามารถช่วยในการคาดการณ์แนวโน้มของตลาดในอนาคต โดยการระบุระดับที่สำคัญของ Fibonacci ในเทรนด์ Demand Supply อาจช่วยในการระบุแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นต่อไปในตลาดเพราะการที่ใช้ Fibonacci ในการหา Zone Supply Demand สามารถช่วยให้มีความแม่นยำมากขึ้นนั่นเอง
ข้อดีข้อเสียในการประยุกต์ใช้ Fibonacci กับ Binary Option
ข้อดี |
ข้อเสีย |
การใช้เป็นเครื่องมือช่วยตัดสินใจ : Fibonacci สามารถใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการตัดสินใจการเข้าและออกจากตลาด Binary Option โดยช่วยให้นักเทรดมีความมั่นใจมากขึ้น |
ความซับซ้อน : การใช้ Fibonacci ในการเทรด Binary Option อาจมีความซับซ้อนและต้องใช้ความเข้าใจในตลาดและเครื่องมือที่ใช้ เทรดเดอร์อาจต้องใช้เวลาในการศึกษาและฝึกฝนเพื่อเข้าใจการใช้งาน |
ยืนยัน Demand Supply: Fibonacci retracement สามารถยืนยัน Demand และ Supply ได้เป็นอย่างดีจะเป็นประโยชน์ต่อการมอง Zone การเล่นของ Trader ได้ว่าน่าเล่นรึเปล่าในจุดนั้น |
ไม่มั่นคง : อย่างไรก็ตาม ไม่มีเครื่องมือใด ๆ ที่สามารถทำให้เทรดเดอร์มั่นคงในการทำกำไรทุกครั้ง การใช้ Fibonacci ในการเทรด Binary Option ยังต้องพิจารณาความไม่แน่นอนในตลาดและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายทางการเงิน |
ระบุทิศทางราคาคร่าวๆ : Fibonacci เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และการพยากรณ์แนวโน้มราคาทำให้เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจการเข้าและออกจากตลาดได้อย่างมั่นใจมากขึ้น |
อาจมีการคลาดเคลื่อน : อาจมีกรณีที่ราคาไม่มี Volume ที่มากนัก Fibonacci และอาจมีการเคลื่อนไหวที่ไม่ถูกต้องส่งผลทำให้มีผลต่อการเทรด Binary Option ที่ต้องการความแม่นยำสูง |
การจำกัดความเสี่ยง : การใช้ Fibonacci อาจช่วยในการจำกัดความเสี่ยงในการเทรด Binary Option โดย การที่ระบุ Zone ที่น่าจะมีนัยสำคัญสามารถทำให้สามารถคัดกรองจุดที่น่าเล่นหรือไม่น่าเล่นได้ |
การขยับของราคาที่เร็วเกินไป : บางครั้งราคาอาจเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วทำให้ระดับ Fibonacci ที่กำหนดมีความเข้ากันไม่ได้กับราคาปัจจุบัน |
การประยุกต์ใช้ Fibonacci กับการเทรด Binary Option
- Fibonacci และเทคนิคการเข้าในแต่ละไม้ : การใช้ Fibonacci เป็นส่วนหนึ่งของเทคนิคการเข้าเทรดในแต่ละไม้ ถ้าเทรดเดอร์ต้องการจะเทรดในตลาด Binary Option เทรดเดอร์จำเป็นต้องใช้ Fibonacciร่วมกับเทคนิค และ Indicator อื่น ๆ เช่น เทคนิค Breakout การ Follow Trend รวม Fibonacci ที่นำมาใช้มองภาพรวมของราคาและทำการวิเคราะห์ และใช้ Indicator ต่างๆในการหาจุดเข้าเทรดที่ Time Frame เล็กลงมาเพื่อเพิ่มความแม่นยำก็จะช่วยให้เทรดเดอร์มองภาพรวมได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
- การจำกัดความเสี่ยงภาพรวม : การใช้ Fibonacci อาจช่วยในการจำกัดความเสี่ยงในการเทรด Binary Option โดยการใช้ระดับ Fibonacci การกำหนด Zone การเข้าเทรดของเทรดเดอร์ รวมไปถึงการกำหนด Zone ที่สามารถเข้าไปเทรดได้ เพราะในบางเวลาอาจไม่ใช้จุดที่สามารถเข้าเทรดได้ เพราะมีความผันผวนของราคาอย่างมาก อาจไม่เหมาะกับการเทรดแบบ Binary Option เพราะเช่นนั้น Fibonacci มีความสำคัญอย่างมากในการดูราคาภาพรวม
- การใช้ Fibonacci ในการวิเคราะห์แนวโน้มราคา : นอกจากนี้ยังสามารถใช้ Fibonacci เพื่อช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มราคาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยการตรวจสอบการเกิดแนวโน้มราคาที่เกี่ยวข้องกับระดับ Fibonacci ที่สำคัญ เช่น การวิเคราะห์ราคาเมื่อถึงระดับ Fibonacci retracement หรือ extension เพราะ Zone การเทรดเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะว่าเทรดเดอร์นั้นไม่สามารถที่จะเทรดได้ในทุกช่วงเวลา จำเป็นอย่างมากที่จะต้องดู Zone ที่สามารถเข้าเทรดได้
- การใช้ Fibonacci กับ Indicator อื่นๆ : การที่เทรดเดอร์ใช้ Fibonacci ร่วมกับ Indicator อื่นๆ เช่น Moving Averages, Relative Strength Index (RSI), หรือ Stochastic Oscillator เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์และการตัดสินใจการเทรด เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากเพราะ เมื่อใช้ Fibonacci ในการวิเคราะห์ภาพรวมแล้วการที่จะหาจุดเข้าเทรดใน Time Frame ที่เล็กลงมาก็จำเป็นอย่างมาก
สรุปใจความสำคัญ
การใช้เทคนิค Fibonacci ในการเทรด Binary Option นั้นมีไว้ใช้เพื่อดูภาพรวมของราคา เพื่อหา Zone ที่สามารถเข้าเล่นได้โดยสามารถแบ่งขึ้นตอนในการใช้ Fibonacci ในการเทรด Binary Option ได้ดังนี้
- ใช้ Fibonacci Retracement เพื่อหา Zone ที่สามารถเข้าเล่นได้
- ดู Elliott Wave ภาพใหญ่
- หา Demand Supply ของโซนนั้น
- ใช้ Indicator ต่างๆเช็คอีกรอบ
- ดู Time Frame เล็กเพื่อหาจุดเข้าเทรด