เตรียมพบกับการแกะกลยุทธ์ท่าทำกำไรของเหล่ายอดเทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญ Options ส่งตรงจากต่างประเทศในหลากหลายมิติการเทรดกันได้เลย
• Prestige Options (ละเอียด เรียบง่ายประสิทธิภาพสูง)
• SOBER TRADING (ยอดนักปั้น พอร์ตเล็ก พอร์ตใหญ่ ไม่คณามือ)
• Cody Capital (เรียบง่าย ทรงพลัง ทรงกำไร)
Prestige Options
จุดเด่นของช่อง
- มีการสอนที่ละเอียด : ภายในช่องนั้นเน้นการสอนที่ค่อยเป็นค่อยไปและลงรายละเอียดเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นการอธิบายหลักการทำงานของ Indicator ต่างๆ โดยแต่ละคลิปจะมีการอธิบายที่ละเอียดอย่างมาก ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจะศึกษากลยุทธ์ใหม่ๆ เพราะการเรียนรู้อะไรใหม่ๆจะต้องใช้ความเข้าใจเป็นหลักจึงจะเป็นผลดี
- เน้นความเรียบง่าย : ช่องนี้จะเน้นการเทรดโดยเน้นเทคนิคที่มีความเรียบง่ายเป็นหลัก เพราะการเทรดที่จะสร้างกำไรนั้นไม่จำเป็นจะต้องอาศัย Indicator ยากๆหรือเทคนิคอะไรที่ซับซ้อน เพียงแค่ความเข้าใจในสิ่งบางสิ่งก็สามารถสร้างกำไรที่มั่นคงได้แล้ว ยกตัวอย่างเช่น ความเข้าใจในเทคนิคนิคที่กำลังใช้อยู่ ไม่ว่าจะเป็น Price Action หรือ คุณสมบัติของ Indicator ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงแค่นี้ก็สามารถสร้างความมั่นคงในระยะยาวของพอร์ตได้แล้วเพราะหัวใจหลักของการเทรดคือ “ความเรียบง่ายแต่ได้ประสิทธิภาพ”
- มีกลุ่ม Telegram : การมีกลุ่ม Community ต่างๆนั้นเป็นผลดีต่อตัวเทรดเดอร์ที่อาจเป็นมือใหม่ หรืออาจเป็นเทรดเดอร์ที่ต้องการหาความรู้ใหม่ๆ การมีกลุ่มที่ให้ความรู้นั้นก็เป็นสิ่งที่ดีอย่างมากในการพัฒนาตัวเองเพราะมีความรู้ใหม่ๆเข้ามานั่นเอง ความสำคัญของกลุ่มต่างๆนั้นอาจมีมากกว่าใครหลายคนคิด
- เน้นตั้งเป้าหมายที่เรียบง่าย : ช่องนี้มีเป้าหมายที่เรียบง่าย นั่นคือการ “ปั้นพอร์ต” จากการเทรดอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามเป้าหมายระยะสั้นของแต่ละวัน จำนวนกำไรที่ตั้งไว้ในแต่ละวันอาจไม่ได้มากมายนัก แต่ช่องนี้ให้ความสำคัญกับการเทรดในระยะยาว เน้นไปทางด้านการเทรดให้มั่นคง
** เทรดอย่างเป็นระบบ สร้างวินัยให้แข็งแกร่ง**
หัวใจสำคัญของการเทรดอย่างมืออาชีพ คือการเทรดอย่างเป็นระบบ มีการติดตามแผนการเทรดของตัวเองอยู่เสมอ และเทรดอย่างมีวินัย การเทรดนั้นวัดกันที่ความมั่นคง มากกว่าจำนวนกำไรที่ทำได้ ยิ่งสามารถอยู่ในตลาดได้นานมากเท่าไหร่ ยิ่งสะท้อนถึงความมีวินัยของเทรดเดอร์คนนั้น
- มีการอัปเดตเทคนิคเดิมอยู่ตลอด : การกลับมาอัปเดตแผนการเทรดให้ผู้ชมได้เรียนรู้อยู่เสมอ แสดงให้เห็นถึงการมีพัฒนาการที่ดี และสามารถให้ผู้ชมเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เพราะการมีความรู้ในการเทรดนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะเมื่อไม่มีการหาความรู้ใหม่ๆ ก็จะไม่สามารถพัฒนาแผนการเทรดได้หรืออยู่ในจุดๆเดิมนั่นเอง
ข้อควรระวัง
การบริหารการเงิน : การเทรด Binary Option นั้นจำเป็นที่จะต้องมีทักษะในการบริหารเงินให้ดีเสียก่อน ก่อนที่เทรดเดอร์จะทำการเข้าเทรด เพราะหากขาดการบริหารการเงิน หรือ Money Management นั้นต่อให้มีเงินทุนมากมายแค่ไหนสุดท้ายก็ขาดทุนในที่สุด เพราะไม่มีความรู้ในด้านการบริหารเงินนั่นเอง
การนำเทคนิคมาปรับใช้ : บางครั้งเทคนิคที่เรียบง่ายของใครหลายๆคนอาจไม่เหมาะกับเรา เพราะความเข้าใจละความถนัดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะเช่นนั้นแล้วเมื่อเทรดเดอร์ได้เรียนรู้เทคนิคใหม่ๆแล้ว ก็ควรไตร่ตรองก่อนว่าตัวเองได้เข้าใจเทคนิคนั้นจริงๆหรือไม่? หรือมีความถนัด? คำถามหรือไม่เหล่านี้มีความสำคัญต่อตัวเทรดเดอร์อย่างมากเพราะความเข้าใจและความถนัดนั้นส่งผลตรงกับผลงานการเทรดโดยตรงนั่นเอง
Indicator ที่ใช้
ชื่อ Indicator | จุดเด่น |
---|---|
Bollinger Bands | การวัดความผันผวนและระบุแนวโน้มราคา |
Stochastic (5-3-3) | บอก Overbought (ภาวะเมื่อมีการซื้อมากเกินไป) และ Oversold (ภาวะเมื่อมีการขายมากเกินไป) |
เงื่อนไขการเข้าเทรด
- ดู Timeframeใหญ่ว่าทิศทางราคากำลังเป็นไปในทิศทางไหน
- สังเกตุ Bollinger Bands ว่าอยู่จุดสูงสุดหรือต่ำสุดรึเปล่า?
- รอแท่งเทียนกลับตัว
- สังเกตุการตัดกันของ Stochastic
Trick ต่างๆของช่อง
- เน้นความเรียบง่ายแต่ได้ประสิทธิภาพ
- ใช้เทคนิคที่มีความถนัดและเข้าใจ
- การเลือกใช้ Indicator นั้นมีปัจจัยดังนี้
- เข้าใจก่อนว่า Indicator ตัวนั้นทำงานอย่างไร
- เข้าใจเงื่อนไขการเข้าเทรด
- ควรเลือกใช้งาน Indicator ที่ทำให้รู้สึกสนุกไปกับการเทรดได้
- ในแต่ละวันไม่จำเป็นต้องเทรดเยอะ แต่ละไม้ต้องผ่านการวิเคราะห์ก่อนการเข้าเทรด
SOBER TRADING
จุดเด่นของช่อง
- การปั้นพอร์ตให้มั่นคง : เน้นการเทรดเพื่อปั้นพอร์ตให้มั่นคงโดยเน้นการเทรดระยะยาวเพื่อสร้างกำไรที่มั่นคง การเทรดเพื่อสร้างความมั่นคงของพอร์ตนั้น จำเป็นที่จะต้องมีวินัยในการเทรดเป็นอย่างมาก
- การปั้นพอร์ตจากเงินจำนวนน้อย : แน่นอนว่าการเทรดนั้นจำเป็นที่จะต้องมีเงินทุน แต่จะทำยังไงหละเมื่อต้องการปั้นพอร์ตเล็กให้มีขนาดใหญ่ขึ้น? คำตอบของคำถามนั้นคือการเริ่มจากการบริหารเงินให้ดีเสียก่อน จากนั้นการที่มีระบบการบริหารเงินที่ดีจะช่วยให้เห็นถึงแนวทางการปั้นพอร์ตได้ จุดเด่นของช่องนี้คือการเทรดตามจำนวนที่เหมาะสมกับเงินทุนที่มี
- การปั้นพอร์ตจากทุนน้อย:
ไม่จำเป็นเสมอไปที่จะต้อง “Overtrade” หรือการเทรดที่มากเกินกว่าจะจัดการดูแลได้ง่ายๆ กลยุทธ์ที่เหมาะสมคือการ “เริ่มต้นอย่างเป็นระบบ” โดยอาจเริ่มจาก “ไม้น้อยๆ” ก่อน เมื่อแผนการเทรดเริ่มเข้าที่ และมีความมั่นคงแล้ว ค่อยๆ เพิ่มขนาดไม้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “Stop loss” ที่ต้องชัดเจน และมีวินัยอย่างมาก
-
- การปั้นพอร์ตจากทุนมาก:
การมีทุนมาก ไม่ได้หมายถึงการเทรดด้วย “ไม้ที่ใหญ่” เสมอไป เพราะยิ่งพอร์ตมีขนาดใหญ่ จะทำอย่างไรให้การเทรดมีความมั่นคง และมีความเสถียร? คำตอบคือ “วินัยการเทรดที่ดี” และ “การบริหารเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ” ซึ่งไม่ต่างจากการปั้นพอร์ตจากทุนน้อยเลย
- มี Signal ในกลุ่ม : เข้ากลุ่มได้เลยเพื่อรับ “สัญญาณการเทรด” (Trading Signals): เทรดเดอร์สามารถเทรดตามผู้อื่นที่มีความรู้และประสบการณ์มากกว่า ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสสร้างกำไรได้ แต่ข้อเสียที่สำคัญคือ เทรดเดอร์จะขาดความเข้าใจในเหตุผลของการเข้าแต่ละออเดอร์ จนไม่สามารถปรับใช้ Signal เหล่านั้นกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันได้
- มีแผนการเทรด (Trade Setup) ให้เลือกมากมาย : มีการนำเสนอ Set Up การเทรดที่หลากหลายแนว แต่ละแนวมีความแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่นลักษณะการเทรดของแต่ละท่าน หรือ อาจเป็นจำนวนเงินทุนของแต่ละท่านที่อาจมีไม่เท่ากัน การมีคลิปที่หลากหลายเพื่อเอื้อถึงเทรดเดอร์หลากหลายประเภทก็เป็นสิ่งที่ดีอย่างมาก
- มีแนวคิดการปั้นพอร์ตที่ดี: ในโลกของการลงทุน อารมณ์ ความโลภ ความกลัว ล้วนส่งผลต่อการตัดสินใจของเรา การเทรดโดยปราศจากอารมณ์ (Trade Without Emotion) จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
** หัวใจหลักของการปั้นพอร์ตที่ดีนั้นคือการเทรดโดยเน้นความเสถียรของพอร์ตเป็นหลัก เพราะความเสถียรเป็นสิ่งที่จะทำให้พอร์ตมีความมั่นคง **
เราควรมีแผนการเทรดที่ชัดเจน มีจุดเข้า จุดออก มีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม และไม่ปล่อยให้อารมณ์มาครอบงำการตัดสินใจ
- นำเสนอ Indicator ใหม่ๆ : แต่ละคลิปมีการอธิบายถึง Indicator ต่างๆที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเทรด Binary Option ได้จุดเด่นของช่องคือการนำเสนอ Indicator ใหม่ๆที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก
ข้อควรระวัง
- ต้องบริหารเงินทุนให้มีความเหมาะสมได้ : การบริหารเงินเท่าที่มีอยู่เป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ทุกๆคนควรทำ นั่นเป็นเพราะไม่ควรเทรดเกินกำลังที่มีหรือ Overtrade การเทรดแบบนี้จะทำให้มีโอกาสสูงที่จะพอร์ตแตกได้หากขาดประสบการณ์
- การเลือกใช้ Indicator : ในการที่จะใช้ Indicator แต่ละตัวควรพิจารณาตามการเทรดของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น เทรดระยะสั้น การเลือกใช้ Indicator ที่เหมาะสม
- การเลือกใช้แผนการเทรดให้สอดคล้องกับทุน : การเลือกใช้แผนการเทรดนั้นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการอยู่รอดในตลาด Binary Option เพราะหากเลือกใช้แผนการเทรดผิดก็จะส่งผลเสียตามมา ยกตัวอย่างเช่น ตัวเทรดเดอร์อาจไม่ได้มีทุนเยอะแต่เลือกการใช้การ Martingale ในการเข้าเทรด ก็จะส่งผลทำให้พอร์ตแตกเร็วยิ่งขึ้นนั่นเอง
Indicator ที่ใช้
ชื่อ Indicator | จุดเด่น |
---|---|
Aroon | บอกสัญญาณการการกลับตัว |
Bollinger Bands | การวัดความผันผวนและระบุแนวโน้มราคา |
Stochastic (14,3,3) | เมื่อเส้นตัดกันแสดงถึงแนวโน้มที่กำลังจะเปลี่ยน Trend |
เงื่อนไขการเข้าเทรด
- ดู Timeframeใหญ่ว่าทิศทางราคากำลังเป็นไปในทิศทางไหน
- สังเกตุ Bollinger Bands ว่าอยู่จุดสูงสุดหรือต่ำสุดรึเปล่า?
- รอแท่งเทียนกลับตัว
- สังเกตุการตัดกันของ Stochastic
- สังเกตุ Indicator Aroon
Trick ต่างๆของช่อง
จุดเด่นของช่องนี้คือการนำ Indicator Aroon มานำเสนอโดยสามารถนำมาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการเข้าเทรดว่าควรเข้าเทรดจังหวะไหนนั่นเอง
- เมื่อ Aroon-Up ตัดอยู่เหนือ Aroon-Down แนวโน้มขาขึ้นที่กำลังมีมากขึ้น
- เมื่อ Aroon-Down ตัดอยู่เหนือ Aroon-Up แนวโน้มขาลงที่กำลังมีมากขึ้น
Cody Capital | Binary Trader
จุดเด่นของช่อง
- การปั้นพอร์ตจากน้อยไปมาก : จุดเด่นหลักๆคือการปั้นพอร์ตจากจำนวนเงินที่ไม่ได้มากมายนัก แต่สามารถทำให้เงินในพอร์ตนั้นมีมากขึ้น โดยเทรดจากการใช้แผนการเทรดที่มั่นคง และผ่านการทดสอบและบันทึกสถิติมาอย่างดี เพราะการที่จะเริ่มจากจำนวนเงินทุนที่น้อยนั้นอาจเป็นอุปสรรคต่อการเทรด
- น้ำเสียงน่าฟัง : ภายในช่องมีการสอนเนื้อหาเหมือนกับช่องให้ความรู้การเทรดทั่วไป แต่จุดเด่นที่ไม่อาจมองข้ามเลยก็คือน้ำเสียงที่นุ่มน่าฟังที่ฟังแล้วทำให้เกิดความเพลินในการศึกษาหาข้อมูล อาจเป็นจุดที่หลายคนมองข้ามแต่การที่เรานั้นมีศึกษาในช่องที่มีคุณภาพเสียงที่ดีก็จะส่งผลทำให้มีสมาธิมากขึ้นนั่นเอง
- มีการสอนที่เรียบง่าย : เนื้อหาภายในคลิปนั้นมีความเรียบง่ายโดยเน้นให้เทรดเดอร์หาแผนการเทรดที่ตัวเองถนัด โดยมีคลิปมากมายให้เทรดเดอร์ได้ศึกษา ในการจะปั้นพอร์ตได้นั้นจำเป็นที่จะต้องมีกลยุทธ์ที่ตัวเองถนัด เพราะจะทำให้เทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
ข้อควรระวัง
- ควรระวังการปั้นพอร์ตจากทุนน้อย : แน่นอนว่าการเริ่มจากทุนที่น้อยจำเป็นที่จะต้องมีการบริหารการเงินที่ดีและมีการคำนวณไม้ที่สามารถออกได้ในแต่ละครั้ง ต้องมีการคิดว่าหากแพ้ในไม้นี้จะต้องทำอย่างไรและต้องเทรดในขนาดไม้เท่าไหร่จึงจะไม่พอร์ตแตก
Indicator ที่ใช้
ชื่อ Indicator | จุดเด่น |
---|---|
Donchian Channel | ระบุแนวโน้มของตลาด |
Parabolic SAR | แสดงจุดที่กราฟกำลังจะเปลี่ยน Trend |
Moving Average Convergence/Divergence (MACD) | บอกแนวโน้มภาพรวมของราคา |
ZigZag | บอกจุดสูงสุดและต่ำสุดของกราฟ |
เงื่อนไขการเข้าเทรด
- ดู Timeframeใหญ่ว่าทิศทางราคากำลังเป็นไปในทิศทางไหน
- สังเกตุการกลับตัวในภาพใหญ่จาก MACD
- สังเกตุ Donchian Channel ว่าอยู่จุดสูงสุดหรือต่ำสุดรึเปล่า?
- รอแท่งเทียนกลับตัวโดยยืนยันจาก Parabolic SAR
- หากมีจุดขึ้นอยู่ใต้กราฟแสดงว่ามีแนวโน้มจะเป็นขาขึ้น
- หากมีจุดขึ้นอยู่บนกราฟแสดงว่ามีแนวโน้มจะเป็นขาลง
- ใช้ Indicator ZigZag เพื่อหาจุดที่กราฟกำลังกลับตัว
Trick ต่างๆของช่อง
- ใช้ Donchian ดูประกอบกับ MACD เมื่อเส้น MACD มีการตัดกันในภาพใหญ่จึงหาจังหวะการเข้าเทรด
- ความสำคัญของการดูกราฟภาพใหญ่ก่อนคือได้เห็นแนวโน้มภาพรวมทิศทางราคา
- การเข้าไปดูใน Timeframe ที่เล็กลงมาจะช่วยให้เข้าเทรดได้แม่นยำมากขึ้น
สรุปใจความสำคัญ
ยังมีความรู้อีกมากมายให้เทรดเดอร์ได้ศึกษา โดยแต่ละช่องนั้นจะมีการสอนที่แตกต่างกันออกไปไม่มากก็น้อย เป็นหน้าที่ของเทรดเดอร์เองว่าจะเลือกรับชมสื่อแบบไหนจากช่องทางไหน เทรดเดอร์ควรเลือกจากสิ่งที่คิดว่าตัวเองถนัดและชื่นชอบ โดยแบ่งเป็นหัวข้อที่น่าสนใจและควรจะศึกษาได้ดังนี้
- การเลือก Indicator
- การประยุกต์ Indicator ต่างๆ
- เทคนิคการปั้นพอร์ต
- Mindset
- Money Management