ในยุคที่การเทรดกำลังฮอตฮิต การเลือกแหล่งความรู้ที่ถูกต้องและมีประโยชน์จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะข้อมูลที่ผิดพลาด ไม่น่าเชื่อถืออาจส่งผลเสียต่อการลงทุนของทุกคนได้ ดังนั้น บทความนี้จะพาทุกท่านไปพบกับแหล่งความรู้ของเทรดเดอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้ทุกท่านสามารถพัฒนาสกิลการเทรดให้เก่งขึ้น ปังขึ้น และประสบความสำเร็จในตลาดการเงินได้อย่่างยั่งยืน ทางทีมงานคัดมาให้แล้วจ้า
โดยปัจจุบันเทรดเดอร์สามารถเข้าถึงสื่อต่างๆได้อย่างง่ายดายและหลากหลายสามารถเป็นตัวเลือกของเทรดเดอร์ได้เลือกเรียนได้ ยกตัวอย่างเช่น
- YouTube : สมัยนี้มีคลิปวีดีโอหลากหลายมากมายที่มีให้เทรดเดอร์ได้เลือก โดยเนื้อหาข้างในคลิปนั้นแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับจุดเด่นของแต่ละช่องที่จะสามารถสรุปเนื้อหาให้ชัดเจนและครอบคลุมหรือไม่ แต่ละช่องล้วนมีแนวการพูดและการตัดต่อที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับการเลือกรับชม
- Facebook : ปัจจุบันได้เริ่มมี Community การเทรด Binay Option อยู่หลายกลุ่มโดยสามารถเข้าไปเพื่อหาความรู้เพิ่มเติม หรืออาจจะเป็นการสอบถามเพื่อหาข้อมูลการเทรดเมื่อมีข้อสงสัย
- Website : เทรดเดอร์สามารถหาข้อมูลต่างๆได้จากเว็ปไซต์ที่มีอยู่อย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
รวมกลยุทธ์เด่นๆของเหล่า Youtuber
Number9Option
กลยุทธ์ของช่องนี้ก็คือใช้ Indicator SMA โดยเปลี่ยนเป็นค่า 5 ช่องนี้เน้นการเทรดตามเทรนด์เป็นหลักเน้นการดูการกลับตัวของแท่งเทียนก่อนหน้า และทำการดู Price Action ของกราฟจากนั้นถึงเข้าตามเทรนด์
Indicator ที่ใช้
- SMA (Smooth Moving Average) ค่า 5
เงื่อนไขการเข้าเทรด
- ดู Indicator SMA (5) ว่ามีการกลับตัวรึเปล่าจากแท่งก่อนหน้า
- วิเคราะห์ Price Action
- ตีโซนแนวรับแนวต้าน
- ตี Trend Line
- ดูหลาย Timeframe ในการเทรด
- Timeframe หลักเพื่อใช้ดูกราฟภาพรวม
- Timeframe เล็กลงมาเพื่อเข้าเทรดได้แม่นยำมากขึ้น
NonameTrader
ช่องนี้เน้นพูดให้ความรู้ไปทางการบริหารเงินยังไงให้มีโอกาสทำกำไรของพอร์ตโดยมีการ Martingale เข้ามาผสมด้วย ช่องนี้จะเน้นไปในเรื่องของบริหารเงินยกตัวอย่างเช่น ทำอย่างไรไม่ให้พอร์ตแตก หรือจะแก้พอร์ตยังไงเมื่อกำลังขาดทุนต่อเนื่องควรมี Mindset ยังไง
Indicator ที่ใช้
- SMA (5)
- MACD (Moving Average Convergence Divergence)
เงื่อนไขการเข้าเทรด
- ใช้ MACD ในการสังเกตุเป็นหลัก
Whiz_trade
ช่องนี้เน้นใช้ Indicator 2 ตัวเป็นหลักนั่นก็คือ SMA 7 และ MACD ช่องนี้เน้นการเข้าเทรดที่จุดกลับตัวโดยจะเข้าก็ต่อเมื่อทั้ง 2 Indicator มีจุดตัดที่สอดคล้องกัน การที่รอให้มีการตัดกันของ Indicator ต่างๆนั้นมีความสำคัญอย่างมากเพราจะช่วยให้เป็นสัญญาณยืนยันในการเข้าเทรดนั่นเองโดยจุดเด่นของช่องนี้ก็คือการปรับ MACD ให้มีความเข้ากับการเทรดมากขึ้นนั่นเอง
Indicator ที่ใช้
- MACD (Moving Average Convergence Divergence)
- Fast Period 5
- Slow Period 24
- Signal Period 5
- SMA (Smooth Moving Average) 7
เงื่อนไขในการเข้าเทรด
- กราฟมีการปิดตัวใต้ / เหนือ เส้น SMA 7
- มีการตัดกันของ MACD ระบบใหม่ที่ตั้งค่าแล้ว (จะสังเกตุได้ว่ามีการตั้งค่าใหม่ของ Indicator MACD)
เนื่องจากมีการตั้งค่าใหม่ของ MACD ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเทรดระยะสั้นให้ง่ายมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะดูปัจจัยต่างๆควบคู่ไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น
- ลักษณะแท่งเทียน
- แนวรับแนวต้านของกราฟ
- สัญญาณอื่นๆจาก Indicators
Pro_bear
โดยช่องนี้จะเน้นใช้การตีเส้นแนวรับแนวต้านเป็นหลัก แต่จะเพิ่มการใช้ Indicator BB หรือ Bollinger Bands และจะเน้นการดูแนวรับแนวต้านเพื่อหา Zone การเข้าเทรดที่สามารถเล่นได้โดยจะเน้นการเทรดแต่ละไม้ที่จุดกลับตัวโดยอิงจากแท่งเทียนก่อนๆว่ามีลักษณะคล้ายกันหรือไม่จากนั้นทำการหาแนวรับแนวต้าน ตี Trend Line ขึ้นมาสังเกตุว่าแท่งเทียนนั้นมีลักษณะอย่างไรเมื่อถึงจุดที่ตีไว้ โดยจะทำการเข้าเทรดก็ต่อเมื่อมีการจบของแท่งเทียนแท่งนั้นเหนือเส้นที่ตีไว้หรือไม่
Indicator ที่ใช้
- Bollinger Bands
เงื่อนไขการเข้าเทรด
- สังเกตลักษณะ Bollinger Bands
- ตี Zone แนวรับแนวต้าน
- สังเกตุลักษณะแท่งเทียน
Elizabeth_rolan
ช่องนี้มีกลยุทธ์ที่มีความหลากหลายเป็นอย่างมากแต่ที่แตกต่างออกไปคือระยะเวลาที่เลือกใช้โดยใช้เวลาในการเทรดจบแต่ละไม้ 5 นาที และดู Timeframe 5 นาทีเช่นเดียวกันโดยส่วนมากจะเน้นไปยังการเทรดจังหวะราคากำลัง Sideway เป็นหลัก
Indicator ที่ใช้
- Donchian Channels
- RSI (Relative Strength Index)
- Stochastic 14 3 3
เงื่อนไขการเข้าเทรด
โดยช่องนี้จะมีจุดเด่นที่ Timeframe ที่เลือกใช้และความนานของแต่ละไม้ที่อาจใช้เวลามากกว่าเทคนิคทั่วไปโดยจะเน้นทำกำไรในช่วงของ Sideway และหาจุดกลับตัวโดยอิงจากลักษณะกราฟก่อนหน้าแน่นอนว่ายิ่งกราฟ Timeframe ใหญ่ขึ้นจะทำให้มีความแน่นอนของทิศทางราคามากขึ้น
- ดู Indicator Doncahin Channels ว่าราคาอยู่จุดอยู่จุดสูงสุดหรือยังเพื่อรอจังหวะเข้าเทรด
- รอจังหวะการเข้าเทรดด้วย Stochastic
- เทรดตอนกราฟกำลังกลับตัว
Binarytricksrevn1680
กลยุทธ์หลักของการเข้าเทรดคือการใช้ Indicator Donchain Channels และ RSI (Relative Strength Index) โดยจะเข้าเทรดเข้าเทรดเมื่อ Donchian Channel กำลังจุดอยู่จุดสูงสุดหรือต่ำสุดจากนั้นสังเกตของตัว RSI ว่าอยู่ตำกว่าระดับ 50 หรือไม่จากนั้นดู Time Frame 15 วินาทีเข้าเทรด 30 วินาที จะเข้าเทรดได้ก็ต่อเมื่อมีการกลับตัวโดยสังเกต Price Action ง่ายๆเมื่อมีการจบแท่งเทียนด้วยแท่งเทียนที่มีทิศทางราคาตรงกันข้าม
Indicator ที่ใช้
- Donchian Channels
- Stochastic (14,3,3)
- RSI (Relative Strength Index)
เงื่อนไขที่เข้าเทรด
- ดู Timeframe 15 วินาที
- สังเกตุ Indicator Donchian Channels หาจุดเข้า
- ดูภาพใหญ่จาก RSI
- ดูแนวรับแนวต้าน
- หาจังหวะเข้าเทรดโดยดู Stochastic
- เทรดไม้ละ 30 วินาที
ทริคการนำสื่อต่างๆมาปรับใช้
- เลือกสื่อที่เหมาะสม : ควรเลือกสื่อที่เหมาะสมกับระดับความรู้และประสบการณ์การเทรดยกตัวอย่างง่ายๆเช่น เพิ่มเริ่มเข้ามาศึกษาการเทรดใหม่ๆแต่เริ่มเรียน Technical เลยโดยไม่มีความรู้เรื่องคำศัพท์มาก่อน ก็จะทำให้การเริ่มเทรดนั้นเป็นไปได้อย่างยากลำบากเพราะผิดพลาดตั้งแต่ตอนเริ่ม
- คัดกรองข้อมูล : หากมีข้อมูลจำนวนมาก ควรใช้เวลาในการคัดกรองและเลือกข้อมูลที่สำคัญเท่านั้น เพื่อป้องกันการสับสน ยกตัวอย่างง่ายๆคือ นำความรู้จากหลายที่มาศึกษาให้อิงจากเทคนิคที่ใช้เทรดอยู่เป็นหลัก เช่น เริ่มศึกษาการเทรด Time Frame เล็กเลือกดูสิ่งที่จะเป็นประโยชน์กับการเทรดสั้น
- การรวมความรู้ : สามารถรวมแนวคิดและข้อมูลจากแหล่งสื่อต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจที่มากขึ้น แต่ข้อควรระวังก็คือควรเลือกจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และดูจากหลายที่เพื่อนยืนยัน
- ทดลองและปรับปรุง : หลังจากได้รับข้อมูลและความรู้จากสื่อต่าง ๆ ลองนำมาใช้ในการเทรดในบัญชี Demo หรือบัญชีทดลองก่อน และปรับปรุงกลยุทธ์ตามผลลัพธ์ที่ได้ เน้นใช้สิ่งที่เราถนัดและเข้าใจมากที่สุดจากนั้นนำมาพัฒนาต่อยอด ยกตัวอย่างคือ ตกลงเลือกใช้ Stochastic 5 3 3 ในการเทรดหลังจากนั้นเทรดบัญชชี Demo ลองดูว่าเข้ากับแผนกาเทรดหรือไม่แล้วจึงทำการปรับเปลี่ยน
- แลกเปลี่ยนความรู้จาก Community : แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือถามคำถามที่สงสัย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Facebook หรือ Line Open Chat การถามสิ่งที่สงสัยก็เป็นสิ่งที่ดีเป็นเพราะว่าเหมือนเป็นการหาความร็ที่รวดเร็ว และมีคนคัดกรองมาให้แล้วแต่ก็ควรที่จะคัยกรองดีๆอีกที
- การติดตามผลลัพธ์: ทำการทดลองเทรด Demo ตามกลยุทธ์หรือแนวคิดการเทรดที่ได้รับจากสื่อต่างๆ เพื่อดูว่ามันเหมาะสมและมีประสิทธิภาพหรือไม่
ทริคการสร้างกลยุทธ์ของตนเอง
การเรียนกลยุทธ์ใหม่ๆนั้นเป็นสิ่งสำคัญแต่สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือการเข้าใจในกลยุทธ์อย่างลึกซึ้งนั่นเองการเข้าใจกลยุทธ์ที่ตัวเองกำลังใช้อยู่เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากเพราะบางทีการทำกำไรอาจไม่จำเป็นจะต้องใช้กลยุทธ์มากมาย Indicator หลายตัว แต่บางทีแค่เทรดเดอร์เข้ากลยุทธ์ที่ตัวเองใช้อย่างลึกซึ้งเช่น เวลาในการทำกำไร เงื่อนไขในการทำกำไร จุดไหนเข้าได้เข้าไม่ได้ Trend ที่กลยุทธ์นี้เหมาะเพียงแค่นี้ก็สามารถทำกำไรได้แล้ว โดยการนำกลยุทธ์หลายๆอย่างมาปรับใช้เป็นกลยุทธ์ของตัวเองเป็นสิ่งที่ดีอย่างมากโดยแบ่งได้ดังนี้
- ศึกษากลยุทธ์ต่างๆ : การศึกษากลยุทธ์ให้มากไว้ก่อนจะเป็นข้อได้เปรียบของตัวเทรดเดอร์เอง เพราะเมื่อมีความรู้ที่มากมายและหลากหลายก็ดีกว่าไม่มีความรู้การที่จะเทรด Binary Option นั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีความรู้เป็นเพราะว่าต้องอาศัยความแม่นยำในการเข้าเทรดดังนั้นการศึกษาหาความรู้ในด้านกลยุทธ์ต่างๆก็มีความจำเป็นอย่างมาก
- ทดลองใช้ Indicator : การทดลองใช้ Indicator ต่างๆก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการสร้างกลยุทธ์ของตนเองเนื่องจาก ความเข้าใจในตัวของ Indicator นั้นมีความจำเป็นอย่างมากในการเทรดยิ่งเข้าใจเงื่อนไขก็สามารถเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- นำสิ่งที่ถนัดมารวมกัน : เมื่อได้กลยุทธ์ที่ถนัดไม่ว่าจะเป็น เงื่อนไขต่างๆ เวลาในการเข้าเทรดนำมาประยุกต์เข้ากับ Indicator แล้วนำมาดูด้วยกันจากนั้นสร้างเงื่อนไขกับตัวเองขั้นมา ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น กำหนดกับตัวเองไว้ว่าเมื่อ เส้น Stochastic (5,3,3) ตัดกันที่เส้น Overbought แล้ว Trend มีแน้วโน้มทิศทางเป็นขาลง ทำการ Sell ในไม้นั้น
- ทดลองเทรดบัญชี Demo : หลังจากที่มีกลยุทธ์ที่คิดว่าจะใช้ในการเทรดจริงแล้ว ก่อนจะทำการเข้าเทรดการทดลองกลยุทธ์ด้วยการเทรดโดยใช้บัญชี Demo ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากเพราะจะช่วยให้เห็นถึงผลลัพท์ของแผนการเทรด
- ดูสถิติของกลยุทธ์ที่ใช้ : เมื่อเทรดได้ซักระยะการดู Statistics ของพอร์ตเราว่าลยุทธ์ที่เราเลือกใช้นั้นสามารถทำกำไรได้มั่นคงหรือไม่ การหมั่นกลับมาดูสถิติของตนเองนั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เป็นเพราะว่าจะทำให้เทรดเดอร์ได้เห็นภาพรวมของการเทรดที่ผ่านมา และสามารถหจุดที่ต้องปรับปรุงหรือมีจุดที่พัฒนาต่อไปได้
- เรียนรู้สิ่งใหม่ๆตลอด : การเรียนรู้กลยุทธ์ใหม่ๆ ความรู้ใหม่ๆ หรือทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้วเสมอเป็นสิ่งที่ควรทำให้เป็นนิสัย เพราะการเทรดนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการเรียนรู้อยู่เสมออย่างไม่สิ้นสุด เพราะการไม่หยุดที่จะพัฒนาหาความรู้อยู่เสมอจะเป็นสิ่งที่ทำให้การเทรดนั้นมั่นคงและยั่งยืนมากขึ้นนั่นเอง
สรุปใจความสำคัญ
การศึกษากลยุทธ์ต่างๆจากช่องทางต่างๆถือว่าเป็นรื่องที่ดีมาก ในปัจจุบันสามารถศึกษาหาความรู้ต่างๆได้อย่างง่ายดายแต่จำเป็นที่จะต้องคัดกรองความรู้ทีได้รับก่อน จากนั้นจึงนำมาปรับปรุงเป็นกลยุทธ์ของตัวเองโดยสามารถสรุปเทคนิคการปรับกลยุทธ์ต่างๆมาเป็นของตัวเองได้ดังนี้
- เลือกกลยุทธ์ที่คิดว่าตัวเองเข้าใจ
- ทดลองเทรดบัญชี Demo
- ดูสถิติของกลยุทธ์นั้น
- นำกลยุทธ์ต่างๆที่ถนัดและเข้าใจมารวมกัน
- เริ่มเทรดจริงและบัญทึกสถิติ
- หาความรู้ใหม่ๆมาพัฒนาเสมอ