ปัจจุบันมีสื่อต่างๆที่สามารถให้เทรดเดอร์หน้าใหม่ได้เข้ามาหาความรู้ โดยแต่ละช่องจะมีจุดเด่นของตัวเองแตกต่างกันออกไป แต่หัวใจหลักของเทรดเดอร์เหล่านี้คือทำคลิปออกมาเพื่อให้ความรู้ในการเทรด Binary Option เพื่อที่เทรดเดอร์ที่อาจจะเป็นมือใหม่หรือเพิ่งเข้ามาศึกษาได้มีความรู้มากขึ้น และเข้าใจกลไกและระบบการเทรด Binary Option โดยแต่ละช่องจะมีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันออกไปดังนี้
Mark Narathip
จุดเด่นของช่อง
- ให้ความรู้เกี่ยวกับการ Money Management : ช่องนี้เน้นในเรื่องของการบริหารการเงินอย่างมาก ให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการเงินที่มี คำนวณไม้ที่สามารถออกได้ และจุดเด่นอีกอย่างคือการ Martingale เมื่อเทรดแพ้ในไม้นั้น และมีการ Stop Loss เมื่อเทรดแพ้ติดกัน
- มีการวางแผนการเทรดที่ดี : มีความชัดเจนในด้านของแผนการเทรด เน้นการเทรดที่มั่นคงและสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง เน้นความมั่นคงของพอร์ตเป็นหลักเพื่อที่จะสามารถบรรลุถึงเป้าหมายโดยมีการวางแผนการเทรดที่มีการทดลองกลยุทธ์ต่างๆ มาปรับใช้ไม่ว่าจะเป็นการลอง Indicator หลายตัวนำมาทดลอง และจุดเด่นอีกอย่างคือการเทรดกราฟเปล่า โดยดูจาก Price Action เป็นหลัก
- มีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน : ทั้งเป้าหมายรายวันและเป้าหมายใหญ่ระยะยาว ซึ่งเป้าหมายรายวันจะไม่ได้เน้นที่จำนวนเงิน แต่ให้ความสำคัญกับทำรายได้บ้าง เพื่อรักษาสภาพจิตใจให้สามารถยึดมั่นกับเป้าหมายระยะยาวได้อย่างยั่งยืน
- สิ่งหนึ่งที่น่ากลัวและอันตรายมากสำหรับเทรดเดอร์คือการนำอารมณ์เข้ามามีส่วนร่วม จนทำให้เกิดการ over trade หรือการเทรดที่มากเกินกว่าเงินทุนที่เราสามารถบริหารได้ดี จนไม่สามารถควบคุมได้และพ่ายแพ้ตลาดในที่สุด
- ให้ความรู้เกี่ยวกับวินัยการเทรด : อีกหนึ่งจุดเด่นของช่องนี้นั่นก็คือการให้ความรู้เกี่ยวกับวินัยการเทรด เพราะการมีวินัยในการเทรดนั้นจะเป็นตัวช่วยทำให้การเทรดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเป็นเพราะว่า เมื่อมีวินัยจะทำให้เทรดเดอร์มีความมั่นคงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางด้านจิตใจ หรือทางด้านกลยุทธ์ที่เมื่อเทรดแพ้ก็จะไม่ส่งผลเสียต่อจิตใจ เพราะมีการวางแผนการเทรดไว้อย่างดีแล้ว ที่เหลือก็เพียงแค่ทำตามแผนอย่างสม่ำเสมอ ถึงจะเรียกได้ว่ามีวินัยในการเทรดนั่นเอง
- มีไลฟ์สด : หลายคนอาจมองข้ามการไลฟ์สด แต่ข้อดีหลักๆของการไลฟ์สดนั่นก็คือเมื่อมีการไลฟ์สดเกิดขึ้นเทรดเดอร์ก็สามารถสอบถามข้อสงสัยที่มีอยู่ได้ เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเองหรือไม่เมื่อมีจุดที่อาจจะไม่เข้าใจแต่จะตั้งคำถาม ก็กลัวว่ากว่าจะได้คำตอบอาจจะนาน การถามในไลฟ์สด ก็เป็นอีกหนึ่งทางออกนั่นเอง
- มี Community Facebook: การมี Community ของช่องจะช่วยทำให้ผู้ติดตามนั้นตามข่าวสารได้ทันไม่ว่าจะเป็นการไลฟ์หรือการอัพคลิปใหม่ๆ เพื่อที่จะทำให้สามารถติดตามข่าวสารหรือมีความรู้ใหม่ๆได้นั่นเอง อีกหนึ่งข้อดีคือสอบถามคำถามหรือแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นได้นั่นเอง เพราะการมี Community ข้อดีหลักๆคือการมีคนมากมายที่สามารถแลกเปลี่ยนความรู้กันได้ตลอดเวลาและรวดเร็ว
ข้อควรระวัง
- ควรเอามาปรับใช้ให้เข้ากับเทคนิคที่ตัวเองถนัด : กลยุทธ์การเทรดเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์แต่ละคนจำเป็นต้องหาความถนัดของตัวเอง เพราะความเข้าใจของแต่ละคนหรือความถนัดของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน เพราะเช่นนั้นจึงต้องหาแผนการเทรดที่ตัวเทรดเดอร์มีความเข้าใจ เพื่อที่จะนำมาเทรดในระยะยาวให้มั่นคง
- ต้องใช้ระยะเวลาในการเฝ้ากราฟ : การเทรดที่เน้นความมั่นคงนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาและความอดทนสูง
Indicator ที่ใช้
- Stochastic (5,3,3)
- EMA (5)
- EMA (15)
- EMA (50)
เงื่อนไขการเช้าเทรด
- ดูกราฟภาพใหญ่ว่าทิศทางราคากำลังเป็นไปในทิศทางไหน
- ดูเส้น EMA 5 15 และ 50 ว่าสอดคล้องกันหรือไม่
- หาจุดเข้าในภาพเล็กด้วย Stochastic 5 3 3
จากรูปจะเห็นได้ว่ามีการยืนยันจาก Indicator Stochastic 5 3 3 มีการตัดกันลงมา และอีกจุดคือ การจบแท่งเทียนใต้เส้น EMA 5 แสดงให้เห็นว่าอาจมีการกลับตัวของกราฟ
M trader Trick
จุดเด่นของช่อง
- มีคลิปสอนเยอะ : การที่มีคลิปสอนเยอะสำหรับมือใหม่แล้ว ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีอย่างมากเป็นเพราะว่ามีแหล่งความรู้มากมายให้เลือกรับชมโดยเฉพาะคลิปที่มีการอธิบายวิธีการตั้งแต่การเริ่มเทรด เพราะเป็นมือใหม่และอยากเริ่มเข้ามาเทรด การที่มีคลิปสอนขั้นตอนหรือวิธีการต่างๆก็เป็นสิ่งที่ดีอย่างมาก
- มีหลายเทคนิค : ในช่องมีหลากหลายเทคนิคให้เทรดเดอร์ได้รับชม โดยแต่ละคลิปจะเน้นไปทางการนำแนวการคิดว่าสามารถนำเทคนิคไหนหรือ Indicator ตัวไหนที่สามารถรวมกันได้ เพื่อทำกำไรนั่นเองข้อดีของการมีหลายเทคนิคอยู่ในช่องนั่นก็คือ เทรดเดอร์สามารถดูคลิปต่างๆแล้วเลือกได้เลยว่าเทคนิคไหนที่น่าสนใจ และนำเทคนิคเหล่านั้นไปทดลองใช้
- อธิบาย Indicator ละเอียด : แต่ละคลิปมีการอธิบายการทำงานของ Indicator ต่างๆว่ามีกลไกการทำงานอย่างไร และอธิบายเงื่อนไขการเทรดที่จะสามารถนำ Indicator เหล่านั้นมาปรับใช้ได้
- มี Community Facebook : มีกลุ่มที่ช่วยให้ความรู้ต่างๆและเป็นพื้นที่ให้ เทรดเดอร์มือใหม่สอบถามข้อสงสัยได้ ข้อดีของการมี Community นั่นก็คือสามารถติดตามกลยุทธ์การเทรดใหม่ๆหรือ ข้อคิดดีๆจากในกลุ่มได้
- มี Line Open Chat : เป็นพื้นที่ให้เหล่าเทรดเดอร์ได้พูดคุยสอบถาม และแลกเปลี่ยนความรู้กันเพราะการที่ใช้ Line เป็นสื่อนั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ดีมากเพราะมีความรวดเร็วและสะดวกง่ายต่อผู้ที่ต้องการคำตอบที่ไวมากกว่า Facebook นั่นเอง
ข้อควรระวัง
- มีเทคนิคให้เลือกใช้เยอะจนสร้างความสับสนได้ : ในบางครั้งการที่มีข้อมูลที่เยอะมากจนเกินไปอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อตัวเทรดเดอร์ได้ ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดนั่นก็คือ มีเทคนิคที่มีให้เลือกเยอะอาจทำให้เทรดเดอร์หน้าใหม่สับสนได้ เพราะข้อมูลที่เยอะไป เลยทำให้ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะนำเทคนิคไหนเป็นเทคนิคหลักนั่นเอง ดังนั้นจึงต้องระวังทำการคัดกรองเทคนิคที่คิดว่าดีและนำมาปรับใช้
Indicator ที่ใช้
ช่องนี้มีหลายเทคนิคแต่ละเทคนิคจะมีความยากง่ายแตกต่างกัน บางเทคนิคต้องอาศัยความเข้าใจของ Price Action มาประกอบ Indicator อย่างเดียวไม่สามารถหาจังหวะเข้าเทรดที่แม่นยำได้ บางเทคนิคต้องอาศัยประสบการณ์สูง
- MACD
- SMA 5
- ZigZag
- Bollinger Bands
เงื่อนไขการเช้าเทรด
(Lower High สังเกตุได้จาก Indicator Zigzag ก่อนหน้าที่อยู่จุดสูงกว่า)
- สังเกตุ MACD ว่าราคาอยู่ในจุดที่มีแนวโน้มกลับตัวหรือเปล่า
- ดู Time Frame ที่เล็กลงเพื่อหาจุดเข้าเทรด
- ใช้ Indicator ZigZag และ Bollinger Bands เพื่อหาจุดที่กราฟกำลังกลับตัว
- รอเข้าเทรดในจังหวะที่กราฟมีการพักตัวเป็นหลัก
Tan Official
จุดเด่นของช่อง
- เน้นการเทรดเพื่อปั้นพอร์ต : จุดเด่นของช่องคือการเริ่มจากจำนวนเงินที่น้อยๆ ไปยังจำนวนที่มากขึ้นการเทรดในจำนวนเงินที่น้อยเพื่อปั้นพอร์ต ก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ดีมากต่อตัวเทรดเดอร์เพราะเป็นการวัดความแม่นยำของตัวกลยุทธ์ หรือจะเป็นการเข้าใจในระบบการเทรดนั่นเอง อีกทั้งยังทำให้ไม่ต้องรู้สึกเสียดายเมื่อเทรดแพ้เพราะถ้าเริ่มมาจากเงินทุนที่น้อย
- ใช้เงินทุนน้อย : บางครั้งการเทรดจากเงินทุนที่น้อยก็เป็นผลดีอย่างมาก เพราะหากมีกลยุทธ์ที่มั่นคงแม่นยำ และมีความเข้าใจต่อระบบการเทรดก็จะช่วยให้สามารถเริ่มได้จากเงินทุนที่น้อยลงได้
- มีหลายเทคนิคสำหรับมือใหม่ : มีการสอนเทคนิคต่างๆลงในช่องมากมายเป็นแหล่งให้เทรดเดอร์หน้าใหม่ได้มาศึกษาหาความรู้ใหม่ๆได้ จุดเด่นอีกด้านของช่องนี้ก็คือมีเทคนิคที่หลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นการเทรด Timeframe ที่หลากหลายก็เป็นจุดเด่นที่มือใหม่สามารถเลือกได้
- นำ Indicator ใหม่ๆมาสอน : เนื้อหาภายในช่องนั้นมีเนื้อหาที่เรียกได้ว่ามีความสดใหม่เป็นอย่างมาก เพราะจะทดลองนำ Indicator ใหม่ๆมานำเสนอ ให้ความรู้และให้เทคนิคแก่มือใหม่
- ประยุกต์ Indicator ที่แปลกใหม่ : การนำ Indicator ใหม่ๆมาประยุกต์ในการเทรดก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของช่อง เพราะมีการพัฒนาและหากลยุทธ์ใหม่ๆมาให้เทรดเดอร์ได้ศึกษาอยู่ตลอด
- มีกลุ่ม Telegram ให้ความรู้ : กลุ่มเปิดเพื่อให้ความรู้ต่างๆและแชร์แนวความคิดต่อกราฟ ไม่ว่าจะเป็นจุดเข้าเทรด Zone ที่มีนัยสำคัญต่างๆที่สามารถเข้าเทรดได้อีกทั้งยังสามารถสอบถามในกลุ่มได้อีกด้วยหามีข้อสงสัยต่างๆการมีกลุ่มเพื่อหาความรู้ใหม่ๆก็ถือได้ว่าเป็นส่งที่ดีอย่างมาก
ข้อควรระวัง
- อาศัยการบริหารการเงินที่ดี : การเทรดเพื่อปั้นพอร์ตนั้น นอกจากจำป็นต้องอาศัยประสบการณ์และความเข้าใจในการเทรดพอสมควรแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่จำเป็นนั่นก็คือความรู้ในด้านการบริหารเงินหรือ Money Management เพราะการปั้นพอร์ตจากจำนวนเงินที่น้อยต้องอาศัยการบริหารเงินที่ดีเพื่อไม่ให้มีการพอร์ตแตก ที่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายกับเทรดเดอร์ที่มีเงินทุนน้อย
- การเลือกใช้ Indicator : บางครั้งการมี Indicator ที่มากเกินไปอาจทำให้เทรดเดอร์เกิดความสับสนในกลยุทธ์ที่จะนำมาปรับใช้กับการเทรดของตัวเอง เพราะมี Indicator ที่มากอาจทำให้เกิดการสับสน ดังนั้นจึงต้องเลือกจากสิ่งที่เข้าใจจริงๆ และผ่านการทดลองเทรดมาแล้วจากนั้นจึงเลือกใช้
- ทดลองเทรดโดยบัญชี Demo ก่อน : สิ่งที่สำคัญอีกอย่างก่อนที่จะเทรดจริง นอกจากการเลือกใช้ Indicator แล้วอีกปัจจัยสำคัญคือการเริ่มเทรดจากบัญชีทดลองก่อน เพราะการเทรดนั้นจำเป็นจะต้องมีความมั่นคงการสร้างระบบการเทรดที่มั้นคงได้นั้น จำเป็นที่จะต้องผ่านการทดลองเทรดเพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อกลยุทธ์ที่เลือกใช้จริงๆ
Indicator ที่ใช้
ภายในช่องมีอีกหลาย Indicator ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ กลยุทธ์นี้เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างจากคลิปภายในช่องที่นำมายกตัวอย่าง
- Alligator
- RSI
- Parabolic
- ZigZag
เงื่อนไขการเช้าเทรด
- ดูภาพใหญ่ของกราฟว่าแนวโน้มมีทิศทางไปทางไหน
- ดูระดับของ RSI เพื่อรอจังหวะการเข้าเทรด
- เมื่อได้จังหวะที่น่าเข้าเทรดแล้วดู Timeframe ที่เล็กลงเพื่อหาจังหวะเข้าเทรดที่แม่นยำ
- ดู Indicator Alligator โดยรายละเอียด 3 ส่วนดังนี้
- Jaw (สีฟ้า)
- Teeth (สีแดง)
- Lips (สีเขียว)
- เงื่อนไขการเข้าเทรดจาก Alligator
- Jaw ตัดลงผ่าน Teeth และ Lips แสดงว่ากราฟกำลังเป็น Trend ขาลง
- Lips ตัดผ่าน Teeth และ Jaw แสดงว่ากราฟกำลังเป็น Trend ขาขึ้น
- เมื่อดู Alligator แล้วจากนั้นรอจุด Confirm จาก Indicator Parabolic โดยมีหลักการดังนี้
- เมื่อมีจุดอยู่ใต้กราฟแสดงว่ากราฟกำลังเป็น Trend ขาลง
- เมื่อมีจุดอยู่บนกราฟแสดงว่ากราฟกำลังเป็น Trend ขาขึ้น
- Indicator ตัวสุดท้ายคือ ZigZag ที่เป็นตัวบอกถึงจุดสูงสุด และต่ำสุดของกราฟนั่นเอง
- เมื่อดูองค์ประกอบทั้งหมดสามารถตั้งคำถามก่อนเข้าเทรดได้ดังนี้
- ดู Indicator Alligator ว่ามีการตัดกันหรือไม่?
- มีจุด Parabolic อยู่ ใต้/บน กราฟหรือไม่
- แท่งเทียนก่อนหน้าเป็นจุดสูงสุดของ ZigZag หรือไม่
สรุปใจความสำคัญ
แต่ละช่องนั้นจะมีลักษณะเด่นแตกต่างออกไป ขึ้นอยู่กับตัวเทรดเดอร์ว่าจะชอบแบบไหนไม่ว่าเป็นทั้งด้านเนื้อหา หรืออาจจะเป็นน้ำเสียงการพูดแต่ละช่องก็จะมีลักษณะเด่นของตัวเอง โดยหัวข้อหลักๆที่สามารถสรุปได้จาก Channel ต่างๆ และสามารถนำมาปรับใช้ได้ในการเทรดมีดังนี้
- เทคนิคต่างๆของแต่ละช่อง
- Indicator รูปแบบใหม่ๆ
- ความรู้ทางด้านการบริหารการเงิน